11 เหตุผลที่ "ทำไมไม่ท้องซะที" (Why You Are Not Getting Pregnant?)

606 จำนวนผู้เข้าชม  | 

11 เหตุผลที่ "ทำไมไม่ท้องซะที" (Why You Are Not Getting Pregnant?)

ในแต่ละดือนเรามีโอาสท้องมากแค่ไหน?
 
ในกรณีที่คุณมีสุขภาพแข็งแรง ประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุกเดือน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ 25% ถ้ามีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอไปเรื่อยๆ จะมีโอกาสท้องสำเร็จ 85% ใน 1 ปี และ 95% ใน 2 ปี หากคู่ไหนที่พยายามมีลูกมาซักระยะแล้ว ยังไม่ประสบความสำเร็จอาจต้องลองกลับมามอง สาเหตุต่างๆ ที่พบได้บ่อยๆ ดังตัวอย่างนี้นะคะ
 
1. ปัญหาสุขภาพของฝ่ายหญิง
 

ปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นอุปสรรค์ต่อการมีลูกในฝั่งฝ่ายหญิง มีหลายสาเหตุเช่น

- ภาวะไข่ไม่ตกเรื่องรัง เช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ PCSO
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
- ท่อนำไข่ตัน ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเดินทางไปฝังตัวที่ผนังมกลูกได้
- เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Myoma uterine)
- การตกไข่ผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้หาวันไข่ตกลำบาก
- อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ไข่เริ่มเสื่อมคุณภาพ
- ภาวะขาดสารอาหาร เช่น ขาดวิตามินดี ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก เป็นต้น
ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่นโรคประจำตัว โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เป็นต้น


คำแนะนำ : ปัญหาสุขภาพหลายอย่างสามารถแก้ไข เพิ่มเพื่อโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุที่เกี่ยวข้องและทำการแก้ไขตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงทางวิตามินบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์

2. ปัญหาสุขภาพของฝ่ายชาย
 
- ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของสเปิร์ม เช่น ปริมาณน้อย รูปร่างผิดปกติ การเคลื่อนที่ผิดปกติ
- ภาวะหลอดเลือดดำอัณฑะขอด หรือ Varicocele
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- ปัญหาท่อนำอสุจิผิดปกติ
- อัณฑะไม่ลงถุง (Undescended testicles)
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรสต่ำ
- ปัญหานกเขาไม่ขัน (Erectile dysfunction)
- ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง


คำแนะนำ : เช่นเดียวกันกับของฝ่ายหญิงคือ ควรตรวจร่างกาย ตรวจสเปิร์ม เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่เป็นสาเหตุทำให้มีบุตรยากหรือไม่ แล้วทำการแก้ไขต่อไป

 3. ภาวะเครียด (Over-stress)
 
ความเครียด เป็นสาเหตุ สำคัญที่ทำให้มีบุตรยากขึ้น ความเครียดส่งผลโดยรวมต่อร่างกายและจิตใจของทั้งหญิงและชาย เนื่องจากร่างกายของเราจะให้ความสำคัญต่อความเครียดเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ระบบอื่นๆที่ไม่จำเป็นเช่นระบบสืบพันธ์ทำงานลดลง ส่งผลให้ ในหญิงอาจมีไข่ตกช้า หรือไม่ตกเลย คุณภาพไข่ผิดปกติ หรือตัวอ่อนฝังตัวไม่สำเร็จ ส่วนในชาย อาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลง สเปิร์มคุณภาพแย่ลง หรือมีปัญหานกเขาไม่ขันได้

คำแนะนำ : ทางวิธีลดความเครียด ในแบบที่เหมาะสมกับคุณเอง เช่น การออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ท่องเที่ยวธรรมชาติ สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่อง "ความเครียดกับการมีลูก"

4. ผอมหรืออ้วนเกินไป (Under or overweight)
 
น้ำหนักตัวมีความสำคัญต่อระบบสืบพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่น้อยไป หรือ มากไป มักจะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศ ทั้งหญิงและชาย อาจทำให้การทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ เช่นไข่ไม่ตก การสร้างสเปิร์มผิดปกติ โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมในช่วงวางแผนมีลูกคือ BMI 20-24

คำแนะนำ : ควบคุมการกินอาหารให้ถูกวิธี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำหนักเกินให้ลดน้ำหนักลงมาประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัวเดิม ถ้าน้ำหนักตัวน้อยเกินไปแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

 5. การกินอาหารที่ไม่ดีต่อระบบสืบพันธ์
 
อาหารบางอย่างส่งผลต่อระบบสืบพันธ์ทั้งหญิงและชาย เช่น Trans Fat อาหารที่มี Glycemic index สูง (อ่านเพิ่มเติมเรื่องอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง) เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธ์ ทำให้การทำงานผิดปกติได้

คำแนะนำ : หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธ์ ให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย

6. การใช้สารหล่อลื่น (Over-use of lubricants)
 

สารหล่อลื่นตามท้องตลาดเช่นกลุ่ม KY-gel มักส่งผลในทางลบต่อสเปิร์ม ทำให้สเปิร์มไม่สามารถเดินทางได้และอาจตายไป การใช้สารหล่อลื่นในช่วงที่กำลังพยายามจะมีลูก จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จ

คำแนะนำ : หากจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น แนะนำกลุ่ม Sperm friendly เช่น Conceive Plus หรือ Pre-Seed เพื่อช่วยใหสเปิร์มเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น

 7. มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่เหมาะสม
 
มีคำกล่าวว่า "Timing is everything" เพราะโอกาสในการตั้งครรภ์ไม่ได้เท่ากันตลอดทั้งเดือน เนื่องจากไข่ของผู้ญิงไข่จะตกแค่เดือนละ 1 ครั้งและจะสลายไปใน 12-24 ชั่วโมง ดังนั้นช่วงเวลาจึงมีความสำคัญมาก หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงไข่ตกอาจทำให้โอกาสในการประสบความสำเร็จลดลง อ่านเพิ่มเติมเรื่อง "หาวันไข่ตกและช่วงที่มีโอกาสท้องสูง"


คำแนะนำ : มีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อไข่ตก โดยช่วงเวลาที่มีโอกาสท้องสูงคือ 5 วันก่อนไข่ตก จนถึง 1 วันหลังไข่ โดยติดตามหาวันไข่ตก โดยใช้การคำนวณ การดูมูกไข่ตก การวัดอุณหภูมิกายขณะพัก หรือใช้แผ่นตรวจไข่ตก

8. การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอร์ หรือใช้สารเสพย์ติด
 

ทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอร์ หรือการใช้สารเสพย์ติด ส่งผลเสียต่อร่างกายด้านต่างๆ รวมถึงระบบสืบพันธ์ของเราด้วย อาจส่งผลให้การสร้างสเปิร์มผิดปกติ การตกไข่ผิดปกติ

คำแนะนำ : พยายามลดหรืองด พฤติกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนเริ่มปล่อยมีลูก เพื่อให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ช่วยให้ไข่และสเปร์มมีคุณภาพ

9. การนอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนมีความสำคัญต่อระบบสืบพันธ์ การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้การตกไข่เป็นปกติ ไข่มีคุณภาพ การสร้างสเปิร์มผิดปกติ นอกจากนี้ยังส่งผลดีโดยรวมต่อร่างกาย อ่านเพิ่มเติมเรื่อง "การนอนหลับกับการมีลูก"

คำแนะนำ : ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะควรเข้านอนในช่วง 22.00-02.00 เนื่องจากเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งออกมามากที่สุด ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งไข่และสเปิร์ม

 10. ขาดวิตามินบางชนิด
 
มีวิตามินหลายชนิด ที่มีผลต่อการเจริญพันธ์ของทั้งหญิงและชาย โดยพบว่าการขาดวิตามินที่จำเป็นต่างๆเหล่านี้อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ เช่น ภาวะขาด วิตามินดี ไอโอดีน ธาตุเหล็ก Zinc (สังกะสี) หรือ Folic acid ซึ่งวิตามินต่างๆ เหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างสเปิร์ม การเจริญเติบโตของไข่ รวมถึงการทำงานของฮอร์โมนเพศต่างๆด้วย

คำแนะนำ : ทานวิตามินบำรุงที่จำเป็นเสริมในขนาดที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยในหญิงควรเริ่มทานวิตามินบำรุงก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ (Prenatal vitamins) ตั้งแต่เริ่มวางแผนมีลูก ในชายสามารถทานวิตามินรวมสำหรับผู้ชาย เพิ่มบำรุงร่างกายและเพิ่มคุณภาพให้การสร้างสเปิร์ม

 

 

11. อาจต้องใช้เวลา
 
ในวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี โอกาสประสบความสำเร็จในแต่ละเดือน มีแค่ประมาณ 25% เท่านั้น และจะลดลงไปเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น โดยพบว่า 85% จะสำเร็จได้ใน 1 ปี และ 90% จะสำเร็จได้ใน 2 ปี

คำแนะนำ : ให้มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง โดยหากพยายามมากกว่า 1 ปีในคนที่อายุน้อยกว่า 35 ปีแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ ในปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพื่อแก้ไข แต่หากอายุมากกว่า 35 ปี หากไม่ประสบความสำเร็จใน 6 เดือนควรปรึกษาแพทย์ทันที

อย่างไรก็ตาม หากเพื่อนพยายามมาระยะหนึ่งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ควรหาเวลาเพื่อปรึกษาแพทย์และหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก ซึ่งพบว่า หลังคู่ที่มีปัญหามีบุตรยากได้ปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขสาเหตุ หลังจากแก้ไขสาเหตุแล้ว 65% สามารถประสบความสำเร็จด้วยวิธีธรรมชาติได้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลที่จะไปพบแพทย์นะคะ จริงๆ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายได้ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนตั้งครรภ์เลยค่ะ เพราะหลายสาเหตุเราสามารถแก้ไขได้ล่วงหน้าได้ ทั้งยังเพิ่มโอกาสให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

เขียนโดย พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้